วิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีและดีต่อสุขภาพ
การลดน้ำหนักที่ถูกต้องตามหลักสุขภาพ ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหมหรือรีบเร่งด้วยการอดอาหาร ร่างกายของเราจะปรับตัวได้ดี หากมีการปรับเรื่องอาหารและการออกกำลังกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ผู้ที่ปกติไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน หากออกกำลังกายหักโหมเกินไป เช่น การวิ่งในช่วงระยะแรก ไม่ควรวิ่งคราวละหลายกิโลเมตร ร่างกายของคุณจะเพลีย ล้า หรือเกิดอาการอักเสบได้ และอาจทำให้คุณท้อทอยจนล้มเลิกการออกกำลังกายในภายภาคหน้า
การรับประทานอาหารในช่วงที่ลดน้ำหนัก ไม่ควรหักโหมเช่นเดียวกัน การอดอาหารหรือการควบคุมแคลอรี่แบบเข้มงวดเกินไป อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและวิตามินที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
สมดุลระหว่างการใช้พลังงานและการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
เมื่อร่างกายได้รับอาหารเข้าไปในร่างกายมากกว่าที่เราใช้ไป เมื่อเราใช้ไม่หมด เช่น ทำกิจกรรมในแต่ละวันน้อย หรือไม่ค่อยออกกำลังกาย ร่างกายจะเก็บพลังงานส่วนที่เกินไว้ในรูปไขมัน สะสมพอกพูนตามร่างกาย
การลดน้ำหนักที่ดีและมีประสิทธิภาพ ต้องพยายามดึงเอาไขมันเก่าซึ่งสะสมออกมาใช้ให้มากที่สุด หลักการง่ายๆ มีดังนี้
1)ลดปริมาณของแคลอรี่ที่คุณกินเข้าไป
2)เพิ่มระดับของการทำกิจกรรม
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อสรุปจากนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมน้ำหนัก
การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป จะสร้างความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ในอนาคต เริ่มต้นทีละนิด เช่น ลดการทานขนมบิสกิต 1 ชิ้นในแต่ละวัน และแต่ละสัปดาห์
หากคุณกินนมสำหรับอาหารเช้าทุกเช้า คุณควรต้องเปลี่ยนเป็นนมพร่องมันเนย หรือนมไขมันต่ำ และนี่คือแนวทางการลดพลังงานที่รับเข้าไปในร่างกาย และเป็นแนวทางสำหรับอาหารประเภทอื่นๆ ทุกชนิด
การลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนถาวร จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณ โดยปกติคนเรามักจะตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนักเพียงระยะไม่กี่สัปดาห์ และเมื่อน้ำหนักลดลงก็มักจะหยุดความตั้งใจนั้น ข้อแนะนำที่ดีคือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินควรต้องใช้เวลามากกว่าเดิม อาจจะต้องใช้เวลามากเป็นเดือน หรือหลายปี
เพิ่มระดับกิจกรรมของคุณให้มากขึ้น
หากคุณเพิ่มระดับกิจกรรมในแต่ละวันให้มากขึ้น แม้ว่าจะกินอาหารที่ให้ปริมาณแคลอรี่เท่าเดิม ก็อาจมีผลให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ และถ้าคุณสามารถหากิจกรรมทำเพิ่ม หรือเพิ่มความถี่ในการทำกิจกรรม เช่น การเดินออกกำลังกายวันละ 20 นาที และทำให้ได้ทุกวัน ก็จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่และไขมันได้มากขึ้น
มีหลายกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เล่นกีฬา เต้นแอโรบิก ทำงานบ้าน การเดิน การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน การเดินขึ้นลงบันไดของสะพานลอยหรือที่ทำงาน
หากคุณสามารถเพิ่มกิจกรรมในแต่ละวันให้มากขึ้น และพยายามทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แม้ในกิจวัตรประจำวัน คุณสามารถเพิ่มระดับกิจกรรมของคุณได้ เช่น
-เก็บรถไว้ที่โรงรถแล้วเดินไปซื้อของที่ร้านค้าซึ่งไม่ห่างไกลมากนัก
-การพาครอบครัวไปปิกนิกนอกสถานที่ คุณนำอาหารที่ควบคุมปริมาณแคลอรี่ไปกินที่นั่น
-ใช้บันไดแทนลิฟท์
-ระหว่างดูทีวี ให้คุณลุกขึ้นออกกำลังกายไปด้วย หรือจะหาจักรยานถีบปั่นในบ้าน
-ทำงานบ้านเพิ่มขึ้น เช่น ซักผ้าด้วยมือแทนเครื่องซักผ้า ล้างรถด้วยตนเองแทนการนำรถไปให้ร้านล้างให้
-ใช้สะพานลอยทุกครั้งที่จำเป็นต้องข้ามไปฝั่งตรงข้าม
-การพาครอบครัวไปปิกนิกนอกสถานที่ คุณนำอาหารที่ควบคุมปริมาณแคลอรี่ไปกินที่นั่น
-ใช้บันไดแทนลิฟท์
-ระหว่างดูทีวี ให้คุณลุกขึ้นออกกำลังกายไปด้วย หรือจะหาจักรยานถีบปั่นในบ้าน
-ทำงานบ้านเพิ่มขึ้น เช่น ซักผ้าด้วยมือแทนเครื่องซักผ้า ล้างรถด้วยตนเองแทนการนำรถไปให้ร้านล้างให้
-ใช้สะพานลอยทุกครั้งที่จำเป็นต้องข้ามไปฝั่งตรงข้าม
คุณควรคำนวณว่าร่างกายของคุณนั้นต้องการพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายคุณต้องการนั้นเท่าไหร่ เมื่อคุณทราบดังนี้ คุณต้องหาวิธีในการรับเอาแคลอรี่เข้าสู่ร่างกายให้น้อยลง
โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ควรลดคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง
ลดปริมาณการกินน้ำหวาน น้ำตาล ของหวาน ขนมต่างๆให้ลดลงจากกิจวัตรประจำวัน
ลดปริมาณการทานของทอด ของผัดลดลง แม้คุณจะอยากทานเพียงใด
ส่วนวิธีการลดแล้วจะทดแทนด้วยอะไรที่จะทำให้ร่างกายไม่หิวจนเกินไป เมื่อคุณกินคาร์โบไฮเดรต ของหวาน ของทอดของมันลดลง คุณอาจจะหิวโหยมากขึ้น ดังนั้นเราอาจแทนพื้นที่อาหารที่หายไปนั้นด้วยของกินที่มีแคลอรี่ต่ำกว่า เช่น ผลไม้ที่ไม่หวาน (ฝรั่ง ชมพู่จืด แอปเปิ้ล องุ่นจืด ส้ม ฯลฯ) ผักที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ได้แก่ผักตามฤดูกาลทุกชนิด ส่วนอาหารทอดหรือผัด คุณอาจเปลี่ยนพฤติกรรมไปเป็นการนึ่งหรือต้มแทน เพื่อลดการรับไขมันที่มีแคลอรี่สูง
หากคุณลดการรับปริมาณแคลอรีให้น้อยลงได้วันละ 300-500 กิโลแคลอรี่จากปกติที่กินเข้าไป จะช่วยให้น้ำหนักของคุณลดลงได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ
การอดอาหารมื้อเช้านั้นเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำ เนื่องจากการทำงานในระบบของร่างกายจำเป็นต้องเผาผลาญแคลอรีตั้งแต่เช้า ดังนั้นอาหารมื้อเช้าจึงควรมีอยู่ หากอดอาหารเช้าจะเกิดผลเสียเพราะจะทำให้ร่างกายโหยหาอาหารและอาจทำให้เกิดการหิวและกินมากขึ้นในมื้อต่อไปได้
สรุปวิธีที่ดีในการลดน้ำหนักคือ ลดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายรับเข้าไปให้ได้วันละ 300-500 กิโลแคลอรี่/วันค่ะ คุณสามารถคำนวณปริมาณและชนิดอาหารที่จะต้องรับเข้าไปในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักได้ โดยอ่านได้ในบทความเก่าที่เขียนไว้ในบล็อกนี้
ร่างเขียนแผนของคุณในแต่ละสัปดาห์
อันดับแรกคุณควรคำนวณปริมาณแคลอรี่ขั้นต่ำที่ร่างกายคุณต้องการ และในแต่ละสัปดาห์คุณควรวางแผนในการในการกินและทำกิจกรรมเพื่อปรับปริมาณการเข้าออกของแคลอรี่ และวางแผนการเผาผลาญแคลอรี่ออกจากร่างกายด้วยกิจกรรมอะไรบ้าง
อันดับแรกคุณควรคำนวณปริมาณแคลอรี่ขั้นต่ำที่ร่างกายคุณต้องการ และในแต่ละสัปดาห์คุณควรวางแผนในการในการกินและทำกิจกรรมเพื่อปรับปริมาณการเข้าออกของแคลอรี่ และวางแผนการเผาผลาญแคลอรี่ออกจากร่างกายด้วยกิจกรรมอะไรบ้าง
ประโยชน์ในการลดน้ำหนักของคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น